เพลงในร้าน: สร้างบรรยากาศรวมทั้งความตรึงใจด้วยเพลง$$

[Joe524]

เสียงเพลงมีผลกระทบต่ออารมณ์และก็ประสบการณ์ของลูกค้าในร้านรวง ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ การเลือก เพลงในร้าน ที่สมควรไม่เพียงแต่ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆแต่ว่ายังสามารถกระตุ้นยอดขายและทำให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินใจมากขึ้น อย่างไรก็แล้วแต่ การใช้เพลงในร้านจำเป็นจะต้องมีการคิดถึง ค่าลิขสิทธิ์เพลง ราคา เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย



สามารถอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> เพลงในร้าน https://soundspacemusic.com

ความสำคัญของเพลงในร้าน

1. สร้างบรรยากาศแล้วก็อารมณ์

เสียงดนตรีที่เหมาะสมสามารถสร้างบรรยากาศให้กับร้านของคุณได้ ดังเช่น เพลงบรรยากาศดีๆในคาเฟ่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกบรรเทา ขณะที่เพลงจังหวะเร็วในร้านบูติกช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นและมีพลัง

2. เพิ่มเวลาในการใช้บริการของลูกค้า

จากการวิจัยพบว่า เพลงในร้าน ที่กับบรรยากาศสามารถทำให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านค้านานขึ้น และเพิ่มจังหวะในการซื้อผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการมากเพิ่มขึ้น

3. เสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์

การเลือกเพลงที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของร้านช่วยทำให้ลูกค้าจดจำและรู้สึกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้มากขึ้น ดังเช่น ร้านกาแฟอาจเลือก เพลงบรรยากาศดีๆแนวแจ๊สเบาๆตอนที่ร้านเสริมสวยบางทีอาจใช้เพลงแนว Lo-fi หรือ Acoustic
ค่าลิขสิทธิ์เพลง: ราคาที่จะต้องรู้ก่อนใช้งาน

1. ค่าลิขสิทธิ์เพลงคืออะไร?
ค่าลิขสิทธิ์เพลง เป็นค่าธรรมเนียมที่จำเป็นต้องจ่ายให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลง เช่น ค่ายเพลง นักแต่งเพลง หรือศิลปิน เพื่อให้สามารถใช้เพลงในเชิงพาณิชย์ได้ ดังเช่นว่า การเปิด เพลงในร้าน ร้านอาหาร ร้านขายกาแฟ หรือรีสอร์ท

2. ค่าลิขสิทธิ์เพลง ราคาเยอะแค่ไหน?
ราคาของ ค่าลิขสิทธิ์เพลง ต่างๆนาๆขึ้นกับปัจจัยหลายสิ่งหลายอย่าง ดังเช่นว่า:
ชนิดของสถานที่ ได้แก่ ร้านอาหาร คาเฟ่ รีสอร์ท หรือห้างสรรพสินค้า

ขนาดของพื้นที่ พื้นที่ใหญ่หรือเล็กส่งผลต่อค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย

จำนวนเพลงที่ใช้ ยิ่งใช้เพลงมาก ค่าใช้จ่ายก็สูงขึ้น

ระยะเวลาการใช้แรงงาน ดังเช่นว่า ทุกเดือนหรือรายปี

ปกติ ค่าลิขสิทธิ์เพลง ราคา อาจเริ่มต้นที่หลักพันบาทต่อปี ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละหน่วยงานที่ดูแลลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์เพลงสากล: สิ่งที่จะต้องรู้ก่อนเปิดเพลงในร้าน

1. การใช้เพลงสากลอย่างแม่นยำ

ลิขสิทธิ์เพลงสากล โดยมากอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรด้านลิขสิทธิ์ ดังเช่น PRS (UK), ASCAP (USA), BMI (USA) ซึ่งถ้าต้องการเปิด ลิขสิทธิ์เพลงสากล ในร้าน จำต้องขอใบอนุญาตจากองค์กรเหล่านี้หรือจากผู้แทนที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย

2. แพลตฟอร์มที่ให้บริการเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์

เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์มที่ให้บริการ เพลงในร้าน แบบถูกลิขสิทธิ์สำหรับร้านหลายที่ ตัวอย่างเช่น:

SoundSpace Music – บริการเพลงสำหรับธุรกิจที่มีเพลงนานัปการแนวให้เลือก พร้อมใบอนุมัติใช้งาน

Spotify for Business – เวอร์ชันที่ดีไซน์มาในการใช้งานเชิงพาณิชย์

Apple Music for Business – ให้บริการเพลงพร้อมใบอนุญาตสำหรับในการใช้งานในร้านค้า

3. หลบหลีกการใช้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งส่วนตัว

การใช้ Spotify, Apple Music หรือ YouTube เวอร์ชันธรรมดาในร้านค้าเป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์เพลงสากล เหตุเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ควรต้องใช้บริการที่วางแบบมาเพื่อการใช้งานในธุรกิจโดยเฉพาะ

เพลงบรรยากาศดีๆ: การเลือกเพลงที่เหมาะสมกับร้านของคุณ

เพลงที่สมควรสามารถช่วยเสริมบรรยากาศของร้านรวงแล้วก็เร้าอารมณ์ของลูกค้าได้ การเลือกเพลงให้เข้ากับจำพวกของธุรกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญ ค๊อฟฟี่ช็อปที่ปรารถนาความบรรเทาบางทีอาจเลือกแนวเพลงอะคูสติเตียนกหรือแจ๊ส ในตอนที่ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นบางทีอาจใช้แนวดนตรีป๊อปหรืออิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างความสนุกและกระปรี้กระเปร่า

สำหรับร้านอาหาร เพลงแนวคลาสสิกหรืออินสงามเมนทัลสามารถช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายแล้วก็เพลิดเพลินเจริญใจกับมื้อของกิน ส่วนฟิตเนสรวมทั้งยิมควรที่จะเลือกเพลงจังหวะเร็วอย่าง EDM หรือร็อก เพื่อเพิ่มพลังและก็กระตุ้นให้ลูกค้าออกกำลังกายได้อย่างมีคุณภาพ

การเลือก เพลงบรรยากาศดีๆที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แต่ว่ายังสามารถเสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำอีกด้วย

การเลือก เพลงในร้าน ให้สมควรสามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี เพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า รวมทั้งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ อย่างไรก็ดี การใช้เพลงจำเป็นต้องทำตามกฎหมาย ค่าลิขสิทธิ์เพลง เพื่อหลบหลีกปัญหาทางกฎหมาย แนะนำให้ใช้บริการเพลงที่ได้รับอนุญาตอย่างแม่นยำ ได้แก่ SoundSpace Music หรือแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอื่นๆเพื่อให้ร้านรวงของคุณมีบรรยากาศที่ดีและไม่ต้องไม่สบายใจเรื่องค่าเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์



ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้ที่ >> ค่าลิขสิทธิ์เพลง ราคา https://soundspacemusic.com